6 min read

เมนคูนนี่เป็นแมวที่ใครเห็นก็ต้องหลงรักจริง ๆ ค่ะ ด้วยความที่ตัวใหญ่ ขนฟู แล้วก็นิสัยดี๊ดี ขี้อ้อนสุด ๆ พอพูดถึงเรื่อง "ค่าเทอม" ของแมวสายพันธุ์นี้ ถ้าเราเลี้ยงแบบไม่ได้จะส่งประกวดอะไร เอาแค่อยู่เป็นเพื่อนเล่นกันไป ขอแยกค่าใช้จ่ายให้เห็นภาพชัด ๆ เลยนะคะว่ามีอะไรบ้าง

สรุปสั้น ๆ ก็คือ "ค่าเทอม" ของแมวเมนคูน อาจจะดูสูงกว่าแมวสายพันธุ์อื่นนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้แพงจนรับไม่ไหวหรอกค่ะ ถ้าเรามีการวางแผนดี ๆ และส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของคุณพ่อคุณแม่ด้วยค่ะ

มาดูกันทีละส่วนเลยนะคะ:

1. ค่าตัวน้องแมว (ก้อนแรกที่ใหญ่ที่สุด!) อันนี้แหละค่ะที่เป็นก้อนใหญ่สุดที่จะต้องจ่ายในตอนแรก เมนคูนที่มาจากฟาร์มดี ๆ มีใบเพ็ดดีกรี มีประวัติสุขภาพชัดเจน มีหลายฟาร์มนะคะ ราคาก็จะเริ่มต้นที่หลักหมื่นปลาย ๆ ไปจนถึงเป็นแสนเลยค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าสายเลือดเค้าดีแค่ไหน สีหายากมั้ย หรือพ่อแม่พันธุ์เก่งกาจขนาดไหนถึงแม้เราจะไม่ได้คิดจะประกวด แต่การลงทุนกับแมวที่มาจากฟาร์มมาตรฐานเนี่ย ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวนะคะ เพราะเค้าจะดูแลเรื่องสุขภาพและพันธุกรรมมาเป็นอย่างดี ทำให้เราสบายใจ ไม่ต้องมานั่งลุ้นว่าน้องจะมีโรคร้ายแรงโผล่มาให้ปวดหัวทีหลัง ซึ่งนั่นแหละค่ะคือ "ค่าเทอม" ที่อาจจะแพงกว่าค่าตัวอีกนะเออ!

2. ค่าจัดเตรียมบ้านต้อนรับ (จัดของให้พร้อมก่อนน้องมา) พอได้น้องมาอยู่ด้วย ก็ต้องมีอุปกรณ์พื้นฐานให้ครบครันหน่อยค่ะ ซึ่งส่วนนี้ก็เป็นค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียวจบ ไม่ได้แพงเท่าค่าตัว แต่ก็ต้องเตรียมไว้พอสมควรเลย:

  • กระบะทราย & ทรายแมว: เมนคูนตัวใหญ่เบิ้ม กระบะทรายก็ต้องใหญ่ตามค่ะ ไม่งั้นน้องจะอึดอัด ทรายแมวก็ต้องเตรียมให้พอใช้
  • ชามข้าว & ชามน้ำ: เลือกแบบที่เข้ากับเค้าหน่อยนะคะ แนะนำเป็นแบบยกสูง น้องตัวใหญ่จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องการก้มหลังแล้วสรีระมีปัญหา
  • ของเล่นสารพัด: สำคัญมาก! เมนคูนชอบเล่น ช่วยให้เค้าได้ออกกำลังกายและไม่เบื่อ ต้องเตรียมไว้เยอะ ๆ ค่ะ เพราะน้องเล่นแรง คาบไปซ่อนบ้าง เล่นสองสามวันบางครั้งก็พังค่ะ
  • ที่นอน / บ้านแมว: หาแบบที่กว้างขวางหน่อยค่ะ เค้าจะได้นอนสบาย ๆ ตอนโต
  • คอนโดแมว / ที่ลับเล็บ: อันนี้ขาดไม่ได้เลยค่ะ เมนคูนชอบปีนป่ายและลับเล็บ ต้องเลือกที่แข็งแรง ทนทาน หรือจะเป็นแบบติดผนังก็ได้นะคะ ไม่เปลืองพื้นที่และสวยเข้ากับบ้าน
  • อุปกรณ์กรูมมิ่ง (แปรงขน): สิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ เลยค่ะ เพราะขนเค้ายาวและหนา ต้องแปรงทุกวันเพื่อไม่ให้ขนพันกัน และเวลาน้องเลียตัวก้อนขนจะได้ไม่สะสมในท้องเยอะค่ะ
  • ตะกร้า / กรงเดินทาง: สำหรับพาไปหาหมอ หรือเวลาต้องเดินทาง แนะนำเป็นกล่องมาตรฐานนะคะใหญ่หน่อยน้องจะได้ไม่อึดอัด
  • วัคซีนหลัก หวัดหัดแมว พิษสุนัขบ้า & ถ่ายพยาธิเบื้องต้น & หยดหลัง: ปกติฟาร์มเค้าจะจัดการให้ก่อนที่เราจะรับน้องมาแล้วค่ะ

3. ค่าใช้จ่ายรายเดือน / รายปี (หมุนเวียนไปเรื่อย ๆ) นี่คือ "ค่าเทอม" จริง ๆ ที่ต้องจ่ายประจำค่ะ!3.1 ค่าอาหาร

  • อาหารเม็ดคุณภาพดี: เมนคูนตัวใหญ่ ก็กินเยอะเป็นธรรมดา แถมต้องการสารอาหารพิเศษเพื่อบำรุงขนและสุขภาพ ดังนั้นค่าอาหารจะสูงกว่าแมวบ้านทั่วไปแน่นอน ยิ่งถ้าเลือกอาหารเกรดพรีเมียมหรือโฮลิสติก ราคาก็จะสูงขึ้นอีกค่ะ
  • อาหารเปียก / BARF: แล้วแต่ยี่ห้อที่เลือก แต่ส่วนใหญ่จะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มความชุ่มชื้นในร่างกาย ช่วยระบบย่อยอาหาร และทำให้ขนนุ่มลื่นสุขภาพดีขึ้น
  • ขนม / วิตามินเสริม: บางทีก็มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้เพิ่มเพื่อบำรุงเพิ่มเติม

3.2 ค่าทรายแมว: แน่นอนว่าตัวใหญ่ก็ถ่ายเยอะ ค่าทรายแมวก็จะสูงขึ้นตามปริมาณการใช้งาน

3.3 ค่าดูแลสุขภาพ:

  • วัคซีนประจำปี: ต้องฉีดทุกปีเพื่อป้องกันโรค
  • ถ่ายพยาธิ / ยาหยดเห็บหมัด: ทำเป็นประจำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
  • ตรวจสุขภาพประจำปี: แนะนำให้พาไปหาหมอเช็คปีละครั้ง เพื่อรู้ทันปัญหาแต่เนิ่น ๆ

3.4 ค่าใช้จ่ายยามฉุกเฉิน / ป่วย: อันนี้แหละค่ะตัวแปรสำคัญที่คาดเดายากที่สุด และอาจจะกลายเป็น "ค่าเทอม" ที่แพงที่สุดได้เลย เพราะค่ารักษาของน้องตามน้ำหนักตัว น้องตัวใหญ่ ค่ารักษาก็สูงกว่าแมวพันธุ์เล็ก

  • ถ้าเกิดน้องป่วยหนักหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง แนะนำให้มีเงินสำรองไว้ หรือพิจารณาทำประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงก็ได้ค่ะ (แต่อาจต้องศึกษาข้อมูลก่อน เพราะยังไม่มีเจ้าไหนที่เข้าตาเท่าไหร่)

3.5 กรูมมิ่ง (แปรงขน / ดูแลขน): เมนคูนจัดอยู่ในกลุ่มแมวขนกึ่งยาว (Semi-long hair) โดยขนจะเปลี่ยนตามฤดูกาล — ถ้าอากาศร้อน ขนจะสั้นลง ถ้าอากาศเย็น ขนจะยาวและฟูขึ้น

  • ถ้าอยากให้ขนยาวสวยเต็มที่ ควรเลี้ยงในห้องแอร์ โดยเฉพาะบ้านที่อุณหภูมิคงที่
  • แต่ถ้าเลี้ยงแบบแมวเลี้ยงเล่นทั่วไป หลังทำหมัน ขนก็จะหนาและยาวสวยขึ้นในระดับหนึ่งโดยไม่ต้องเปิดแอร์ตลอด 24 ชม.

3.5 กรูมมิ่ง (แปรงขน / ดูแลขน): เมนคูนจัดอยู่ในกลุ่มแมวขนกึ่งยาว (Semi-long hair) โดยขนจะเปลี่ยนตามฤดูกาล — ถ้าอากาศร้อน ขนจะสั้นลง ถ้าอากาศเย็น ขนจะยาวและฟูขึ้น

  • ถ้าอยากให้ขนยาวสวยเต็มที่ ควรเลี้ยงในห้องแอร์ โดยเฉพาะบ้านที่อุณหภูมิคงที่
  • แต่ถ้าเลี้ยงแบบแมวเลี้ยงเล่นทั่วไป หลังทำหมัน ขนก็จะหนาและยาวสวยขึ้นในระดับหนึ่งโดยไม่ต้องเปิดแอร์ตลอด 24 ชม.

สรุปค่าเทอมเมนคูน (เวอร์ชันเลี้ยงเล่นในบ้าน)ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น (ปีแรก):

  • ค่าน้องแมว: ฟาร์มมาตรฐานโดยทั่วไปอยู่ในช่วง 20,000 – 100,000 บาท (หรือมากกว่านั้น หากเป็นสีหายากหรือสายแชมป์) แต่สำหรับฟาร์มของเราค่าน้องจะเริ่มต้นที่ 50,000 บาท 
  • ค่าอุปกรณ์แรกเข้า: 5,000 – 20,000+ บาท รวมปีแรกโดยประมาณ: 25,000 – 80,000+ บาท

ค่าใช้จ่ายรายเดือน:

  • เฉลี่ย 5,000 บาทขึ้นไปต่อเดือน รวมรายปี: 60,000 – 100,000+ บาท

ค่าใช้จ่ายรายปี (ด้านสุขภาพ):

  • 2,000 – 5,000 บาทต่อปี

ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน / ไม่คาดฝัน:

  • ถ้าโชคดีอาจไม่มีเลย
  • ถ้าเกิดน้องป่วยหนักหรือมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น FIP (โรคเยื่อบุช่องท้องอักเสบจากไวรัส), UTI (โรคติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ) หรือโรคหัวใจ (Hypertrophic Cardiomyopathy - HCM) ที่พบได้ในเมนคูน ค่ารักษาอาจสูงมาก และต้องได้รับการดูแลระยะยาว
  • เผื่อใจ เผื่อเงินไว้เลยสำหรับค่าผ่าตัดหนังตาม้วน ประมาณ 20,000 บาทเป็นขั้นต่ำ
  • แนะนำให้มีเงินสำรองไว้ หรือพิจารณาทำประกันสุขภาพสัตว์เลี้ยงก็ได้ค่ะ (แต่อาจต้องศึกษาข้อมูลก่อน เพราะยังไม่มีเจ้าไหนที่เข้าตาเท่าไหร่)

คำแนะนำส่งท้าย:

  • วางแผนงบประมาณให้ดี ทั้งค่าใช้จ่ายเริ่มต้น และค่าใช้จ่ายประจำเดือน/ปี
  • ศึกษาข้อมูลเยอะ ๆ เพราะเมนคูนต้องการการดูแลเฉพาะทาง โดยเฉพาะเรื่องอาหาร ขน และการออกกำลังกาย
  • พิจารณาความพร้อมของตัวเอง ทั้งเวลาและพื้นที่ เพราะเมนคูนต้องการพื้นที่และการมีส่วนร่วมจากเจ้าของ

ถึงแม้ว่าเมนคูนจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าแมวสายพันธุ์อื่นไปบ้าง แต่แอดมินบอกเลยว่า... ใครได้เลี้ยงแล้วจะเข้าใจค่ะ ด้วยความน่ารัก อ่อนโยน ขี้อ้อนแบบละลายใจ แถมยังดูสง่างามมีคลาสสุด ๆ หลายคนบอกเลยว่า “โคตรคุ้ม” กับความสุขที่ได้กลับมาในทุกวัน